วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

ปศุสัตว์แนะซื้อเนื้อไก่ปลอดภัยช่วงตรุษจีน

ไก่

ปศุสัตว์แนะซื้อเนื้อไก่ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลตรุษจีน (ไทยรัฐ)

          ปศุ สัตว์แนะวิธีซื้อไก่ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ควรแน่นมีสีสดไม่มีจุดเขียวช้ำ และที่สำคัญต้องมีสัญลักษณ์สายรัดระบุข้อความกรมปศุสัตว์...

          นายนิพนธ์ เข็มกลัด ปศุสัตว์จังหวัดระยอง เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง จะมีการใช้สัตว์ปีกเพื่อไหว้เจ้าเป็นจำนวนมาก และเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคเนื้อสัตว์ปีกที่สะอาดและปลอดภัย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดระยอง จึงได้ดำเนินงานโครงการเนื้อสัตว์ปีกปลอดภัยฉลองตรุษจีนปี 2553 ตามนโยบายกรมปศุสัตว์

          โดย ประชาชนควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์ปีกที่มีลักษณะแน่น มีสีสดไม่มีจุดเขียวช้ำ หรือจุดแดงกระจายตามผิวหนัง และมีสัญลักษณ์สายรัดที่ขาสัตว์ปีก มีข้อความว่ากรมปศุสัตว์ พร้อมหมายเลขกำกับเป็นรายตัว สายรัดดังกล่าวเมื่อใช้งานแล้วไม่สามารถถอดมาใช้กับสัตว์ปีกตัวอื่นได้ จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่า สัตว์ปีกนั้นผ่านการตรวจสอบและรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าปลอดภัยต่อการบริโภค และสามารถสอบย้อนกลับไปถึงฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกนั้นได้

          ผู้ บริโภคควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์ปีกจากผู้จำหน่ายเนื้อสัตว์ที่สะอาด มีการดูแลรักษาความสะอาดสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์เป็นอย่างดี และที่สำคัญต้องมีใบรับรองจากกรมปศุสัตว์





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


บึ้มตลาดคลองเตย คาดผู้ค้าคู่อริ บ.ลีเกิ้ล ว่าจ้างทำร้าย






พุ่ง 2 ปมบึ้มตลาดคลองเตยคาดผู้ค้าคู่อริ บ.ลีเกิ้ล ว่าจ้างทำร้ายแม่ค้าเส้นก๋วยเตี๋ยว ออกหมายจับ1ต้องสงสัย (มติชนออนไลน์)

          คนร้ายปาระเบิดใส่แผงขายเส้นก๋วยเตี๋ยว ตลาดคลองเตย ช่วงกลางดึก ชาวบ้านกำลังจ่ายตลาดต้องหนีแตกตื่น บาดเจ็บ 6 ราย ส่ง รพ.จุฬาฯ แล้ว 1 ในนั้นเป็นหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 3 เดือน ผบช.น. เผย อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัย 1 ราย แล้ว เตรียมขยายผลเพิ่ม ฮึ่มใครก็ตามอยู่เบื้องหลังจัดการขั้นเด้ดขาด

          เมื่อเวลา 01.50 น.วันที่ 7 ก.พ. ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาด 3 โต้รุ่ง คลองเตย บริเวณแผงขายพริกแกงและเส้นก๋วยเตี๋ยวและแผงขายอาหารทะเล หอมและกระเทียม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ เข้าควบคุมพื้นที่ ตรวจสอบทราบว่าเป็นระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง ขณะนี้สถานการณ์เป็นปกติแล้ว โดยทราบว่าจะเกิดเหตุ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 6 ก.พ. กระทั่งมาเกิดเหตุในเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 7 ก.พ. พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสาเหตุและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

          ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 6 ราย เป็นลูกจ้างประจำแผงค้า และเป็นชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ ถูกพลเมืองนำส่ง รพ.จุฬาฯ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 

          1.นายยัง สอนดี อายุ 32 ปี ลูกจ้างแผงค้าเส้นก๋วยเตี๋ยวถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่หน้าอกและสีข้างด้านขวา อย่างจังอาการสาหัสต้องนำเข้าห้องไอซียู 

          2.น.ส.เกิดจะนา สีม่วง อายุ 30 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่คางและหัวไหล่ 

          3.นาย แก้ว คนหลัก อายุ 28 ปี เป็นชาวบ้านที่มาจ่ายตลาดถูกสะเก็ดเข้าที่หน้าท้อง 

          4.น.ส.โรสินี บุญรักษ์ อายุ 24 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขาขวาเป็นแผลฉกรรจ์

          นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.เทพธารินทร์ อีก 2 ราย คือ 

          1. น.ส.นิยา (ไม่ทราบนามสกุล) แม่ค้าขายพริกแกงถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลำคออาการสาหัสต้องนำเข้าห้องไอซียู 
          
           2. ชายนิรนามอีก 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกายหลายแห่ง

          จากการสอบสวน นายเริงชัย โพธิ์ศรี อายุ 52 ปี หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด เจ้าของสัมปทานตลาด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถ จยย.ตรวจตราอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ พอได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจึงหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ เห็นชายต้องสงสัยอายุประมาณ 22-25 ปี ไว้ผมบ๊อบ ผิวดำ-แดง สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนขายาว วิ่งออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน จากนั้นก็มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอีก 2 คน พากันขับขี่และซ้อนท้าย รถ จยย.แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น สีน้ำเงิน ทะเบียนจำได้แค่หมวดอักษร ก.ล.น. แต่จำหมายเลขไม่ได้ มาจอดรับชายคนดังกล่าวไป โดยคนร้ายได้พากันขับขี่รถ จยย.ในลักษณะซ้อนสาม ขับย้อนศรฝ่าไฟแดงบริเวณแยกสุนทรโกษาหลบหนีไปทางตลาดปีนัง ซึ่งตนก็พยายามขับรถ จยย.ตามไปแต่เกิดคลาดกันระหว่างทางจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจ สอบ

          ด้าน นายวัชสิทธิ์ ธรรมธีระศรี ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทางบริษัทพอที่จะทราบแล้วว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใคร เนื่องจากภายในตลาดมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั่วบริเวณเพื่อป้องกัน เหตุอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท สามารถใช้กล้องถ่ายรูปบันทึกภาพกลุ่มชายต้องสงสัยที่เข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ใน ตลาดได้จำนวน 4 คน โดยก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาที กลุ่มชายต้องสงสัยทั้ง 4 คนนี้ ได้ไปปรากฏตัวอยู่ที่แผงเจ๊น้อยขายปลาดุก ผู้ค้าเก่าซึ่งอยู่ใต้ชายคาตลาด 4 ด้วยท่าทางร้อนลน ซึ่งมีในกลุ่มผู้ต้องสงสัยมีอยู่ 1 คนที่สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีทึบด้านหลังปักลายตัวอักษรยี่ห้อรถ จยย. ยามาฮ่า พยายามควักวัตถุบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ เพื่อปาใส่เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท จนกระทั่งถูกตรวจพบพฤติกรรมจึงโดนกดดันออกนอกพื้นที่ แต่คล้อยหลังเพียงไม่กี่นาที ร้านขายเส้นก๋วยเตี๋ยวของเจ๊อ๋า ซึ่งเป็นผู้ค้าใหม่ที่เสียเงินค่าเช่าแผงกับทางบริษัทอย่างถูกต้อง และยังเป็นคู่อริกับเจ๊น้อยขายปลาดุก ก็ถูกปาระเบิดใส่จนมีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

          "อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางบริษัทขอรับผิดชอบดูแลค่ารักษา พยาบาลให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ทั้งในส่วนของชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า และลูกจ้างประจำแผงค้า เนื่องจากลูกจ้างแผงค้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดต่างก็เป็นผู้ค้าที่ได้รับสัมปทาน จาก บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด อย่างถูกต้อง ทางบริษัทจะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน" นายวัชสิทธิ์ กล่าว

          ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ สน.ท่าเรือ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น.เรียก พล.ต.ต.อนุชัย พ.ต.อ.สมบัติ พ.ต.อ.ธนิต ประชุมจับกุมคนร้ายที่ขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตย โดยนำเอกสารเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดคลองเตย แผนที่ผังตลาด และภาพถ่ายคนร้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกเอาไว้ได้ มาใช้ประกอบการประชุมอย่างเคร่งเครียด โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

          พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่ามีความคืบหน้าไปมาก กลุ่มที่ก่อเหตุก็เป็นกลุ่มเดิมระหว่างบริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ที่ได้รับสัมปทานตลาดคลองเตยกับกลุ่มผู้ค้าตลาดลองเตยเก่า ซึ่งปัญหาความบาดหมางได้สงบมานานพอสมควร แต่เหตุการณ์มาประทุอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกลุ่มผู้ค้าที่ไปอยู่กับบริษัทลีเกิ้ล บางส่วน และกลุ่มผู้ค้าเดิม ทะเลาะแย่งแผงค้ากันอีกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่บริเวณระหว่างทางเดินตลาดคลองเตย 3 กับตลาดคลองเตย 4 จนเหตุการณ์บานปลายถึงขั้นมีการขว้างระเบิดใส่กลุ่มผู้ค้าที่ไปอยู่กับ บริษัทลีเกิ้ล ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 6 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน

          ผบช.น. กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุคนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อคลุมสีดำวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป ตำรวจที่รักษาการณ์อยู่ในตลาดจึงบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด แม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่เข้าไปในตลาด ก็รวบรวมพยานหลักฐานและสอบพยานบุคคล และขออนุมัติหมายจับได้แล้ว 1 คน จากผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 4 คน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุจึงจัดเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็น 1 กองร้อย เพื่อดูแลความเรียบร้อยบริเวณตลาดคลองเตย

          "ฝากถึงผู้ที่ก่อเหตุและชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ หรือใครก็แล้วแต่ที่อยู่เบื้องหลัง เราจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ปัญหาที่เกิดขึ้นเราต้องการให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันมากกว่าใช้ความรุนแรง เพื่อแก้ปัญหา โดยที่ผ่านมาตำรวจทำคดีที่เกิดความขัดแย้งกันทั้งสองฝ่ายทั้งหมด 124 คดี อยู่ในชั้นศาล 14 คดี ชั้นอัยการ 75 คดี อยู่ระหว่างการทำคดีของตำรวจ 31 คดี และศาลตัดสินเสร็จสิ้นไปแล้ว 4 คดี" ผบช.น.กล่าว

          ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ  กล่าวว่า สอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ ขณะนี้สอบไปได้ 10 กว่าปากแล้ว รวมทั้งต้องสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย นอกจากนี้ กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณใกล้เคียง สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิด วี 40 หรือ ระเบิดมะนาว มีอนุภาพทำลายล้างในรัศมีระยะ 6 เมตร โดยผู้ได้รับบาดเจ็บที่อาการสาหัสนั้น เนื่องจากอยู่บริเวณแผงค้าที่ระเบิดขว้างลงใส่พอดี

          ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานบริษัท ลีเกิ้ลโปรเฟสชั่นแนล จำกัด แถลงข่าว สาเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่ตลาดคลองเตย ว่าสาเหตุน่าจะมาจากด้วยกัน 2 กรณี คือ นางจันจิรา ณ นคร แม่ค้าขายเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งได้ทำสัญญากับทางบริษัทลีเกิ้ล ร่วมกับผู้ค้าตลาดคลองเตย 2 ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 79 จำกัด ได้ยื่นหนังสือเข้าร้องเรียนมาที่สำนักงานส่งสริมสหกรณ์ พื้นที่ 2 เรื่องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ บริหารไม่โปร่งใส เนื่องจากสมาชิกของสหกรณ์ซึ่งเป็นสมาชิกของตลาดทั้งหมดเป็นสมาชิกกว่า 20 ปี แต่ไม่ได้เคยได้รับเงินปันผลเลย ส่วนประเด็นต่อมา ก็คือ นางพนิดา ณ นคร แม่ค้าขายเส้นก๋วยเตี๋ยว น้องสาวของจันจิรา ซึ่งได้ทำสัญญากับทางบริษัทเรียบร้อยแล้ว แต่กำลังรอแผงค้าจากกลุ่มแม่ค้าเก่าที่ไม่ยอมย้ายออกจนได้มีปากเสียงกันได้ ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว โดยนางพนิดาถือว่าเป็นแกนนำลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อให้ได้ที่ค้าขายหลังจากที่ ทำสัญญา ที่ผ่านมานางจันจิราหลังจากเป็นแกนนำร้องเรียนได้ถูกข่มขู่มาโดยตลอดจน กระทั่งถูกขว้างระเบิดใส่แผงค้าเมื่อคืนที่ผ่านมา

          ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมทั้งพยานที่เกิดเหตุ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุประมาณ 5 นาทีมีชายต้องสงสัยจำนวน 4 คนเข้ามาในตลาดคลองเตย 2 โดยมีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำทำท่าทางเหมือนกำลังจะควักอะไรออก จากกระเป๋าเสื้อคลุม ซึ่งมีลักษณะคล้ายวัตถุระเบิด และขว้างใส่แผงผู้ค้าตลาดคลองเตย 3 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยเชื่อว่ากลุ่มคนดังกล่าวน่าจะถูกบรรดาแม่ค้าที่มีปัญหากับบริษัทลีเกิ้ลฯ ว่าจ้างมาลงมือในครั้งนี้ ซึ่งหลักฐานภาพถ่ายได้ส่งให้เจ้าหน้าที่รวมทั้ง พยานที่เห็นเหตุการณ์ เชื่อว่าตำรวจน่าจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับได้เย็นนี้

          สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 คนเบื้องต้นรักษาตัวกลับบ้านได้แล้ว 4 คน ส่วนอีก 2 คน ยังนอนรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาล จุฬาฯ โดยนายยัง สอนดี ถูกสะเก็ดระเบิดข้าที่ลำคอเจาะเส้นเลือด และนางวิริยา ภิรมย์เดชา ถูกสะเก็ดระเข้าที่หน้าอกขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ ห้องไอซียู ซึ่งค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดทางบริษัทจะเป็นผู้ออกให้ โดยคนเจ็บทั้งหมดเป็นผู้ค้าที่มาทำสัญญากับ บริษัท ลีเกิ้ล ทุกคน




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

ปูนบำเหน็จ ด.ต.เหยื่อคลั่งยาบ้า







ปูนบำเหน็จ ด.ต.เหยื่อคลั่งยาบ้า (ข่าวสด)

          จากกรณีด.ต.ชาญ ชุ่มมั่น ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสามพราน จ.นครปฐม ถูกคนร้ายเมายาบ้ายิงเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่จับกุมขณะที่กำลังก่อ ความเดือดร้อนให้ประชาชน ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น


          เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่ศาลาฌาปนสถาน วัดท่าพูด อ.สามพราน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตำรวจ ได้เดินทางมารดน้ำศพ ด.ต.ชุ่มมั่น พร้อมเปิดเผยว่า สำนัก งานตำรวจแห่งชาติเสนอปูนบำเหน็จความชอบ 7 ขั้น 5 ชั้นยศ โดยจะขอพระราชทานยศเป็นพันตำรวจโท พร้อมนี้จะได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้นได้มอบเงินฌาปนกิจ จำนวน 200,000 บาท เงินมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจ จำนวน 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 450,000 บาท  สำหรับบุตรชายทั้ง 2 คน นั้น บุตรชายคนโต คือ นายยุทธภูมิ ชุ่มมั่น จะเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ เพื่อเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ทุ่มเทเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่สืบแทน บิดาต่อไป



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด, ไทยรัฐ



ผวาทาวน์เฮาส์ ย่านปทุมฯ ดินทรุดทั้งซอย

บ้านทรุด

ผวาทาวน์เฮาส์ ดินทรุดทั้งซอย (ข่าวสด)

          ผวา บ้านจัดสรรในปทุมธานีเกือบ 50 หลัง ดินทรุดตัวหายไปจากใต้พื้นบ้านเป็นโพรงลึกกว่า 1 เมตร มองเห็นตัวบ้านอยู่บนเสาเข็มชัดเจน เผยตั้งแต่ซื้อมาก็ประสบปัญหาดินทรุดเรื่อย ๆ แถมฐานรากก็ไม่เกาะอยู่บนหัวเสาเข็ม ต้องซื้อดินมาถมกันเอง ด้านนายกเทศมนตรีเผยต้องเสียงบประมาณยกถนนไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท แต่บางซอยต้องรองบประมาณ

          เมื่อวันที่ 17 ม.ค. น.อ.บุญส่ง จุ้ยกล่อม อายุ 70 ปี อดีตนายทหารอากาศ ได้ร้องเรียนว่าตนซื้อบ้านทาวน์เฮาส์ขนาด 17 ตารางวา ในราคา 580,000 บาท เพื่อพักอาศัยเมื่อปี 2538 ชื่อหมู่บ้านรินทร์ทอง ลำลูกกา ม.2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โครงการบ้านจัดสรร ของบริษัท ลลิล แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ประสบปัญหาดินทรุดมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการขุดหน้าดินไปขาย ทำให้ใต้ถุนบ้านทาวน์เฮาส์จะเป็นโพรงทุกหลังเหมือนกันหมด ซอยอื่น ๆ ของหมู่บ้านนี้ก็เป็นอย่างนี้ เช่น ซอย 5 และซอย 7 แต่เทศบาลเมืองลำสามแก้ว ได้มาทำถนนให้อยู่ในระดับเดียวกับพื้นบ้านไปแล้ว ส่วน ซอย 6 ยังไม่ได้ทำเนื่องจากงบประมาณไม่พอ บ้านของตนก็ต้องถมขึ้นมาให้เท่ากับพื้นบ้านประมาณ 1 เมตร เฉพาะซอย 6 มีทั้งหมด 48 หลังคาเรือน เวลาถึงหน้าน้ำต้องใช้เรือหรือแพออกจากบ้าน

          น. อ.บุญส่ง กล่าวต่ออีกว่า มีทาวน์เฮาส์บางหลังที่ฐานรากของตัวบ้านไม่ได้อยู่บนหัวเสาเข็มที่ตอกลงไป ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะตามปกติโครงสร้างของการก่อสร้างระบบฟุตติ้งบนหัวเสาเข็มจะต้องติดกัน มีการผูกเหล็กเทปูนให้เป็นฐานเดียวกัน แต่ที่นี่ไม่เป็นอย่างนั้น โดยเฉพาะดินที่ถม อยู่ใต้พื้นบ้านไม่มีเหลืออยู่ จึงเป็นโพรงและมีน้ำขัง ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาในอนาคตหรือไม่

          ขณะที่นายสมบุญ ทับทิม อายุ 73 ปี เปิดเผยว่า "มาซื้อบ้านที่นี่ประมาณ 15 ปี ต่อมาประมาณ 3 ปี ถนนเริ่มทรุด แต่ก็ไม่มากเท่าถึงปัจจุบัน ตอนนั้นก็ถามเจ้าของโครงการว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นธรรมชาติ จึงตีเข็มยกพื้นที่หน้าขึ้นเนื่อง จากเริ่มทรุดไปตามถนน แต่ตัวบ้านไม่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังมีการทรุดมาอย่างต่อเนื่อง อย่างที่เห็นน่าจะถึงเมตร จึงตีเสาเข็มใหม่อีกครั้งลึกลงไปถึง 19 เมตรให้ถึงก้นของมันจนถึงดินแดงพื้นล่าง ตอนแรกที่มาซื้อทั้งพื้นถนนและพื้นบ้านก็จะเท่ากัน มาตอนหลังไม่รู้ว่าดินยุบไปไหนหมด บ้านไหนที่พอจะมีเงินก็ถมพื้นหน้าบ้านให้เสมอกับพื้นบ้านเดิมก็ประมาณ 1 เมตร เจ้าของบ้านหลังไหนที่เขามีที่ไปก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น มีทั้งปล่อยร้างและประกาศขาย"

          ด้าน นายบุญไกร บุญคุ้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองลำสามแก้ว ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า หมู่บ้านรินทร์ทอง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้ก่อสร้างมากว่าสิบปีแล้ว โดยได้ปลูกสร้างบนพื้นที่บ่อดินเก่าที่มีการนำดินมาถมใหม่ จึงเป็นเหตุให้ดินยุบตัวลงมาจำนวนมาก ซึ่งเดิมทางโครง การหมู่บ้านได้ก่อสร้างในพื้นที่เสมอกันหมด เมื่อมีการอยู่ไปสักสามสี่ปีพื้นดินได้ยุบตัวลงมาเรื่อย ๆ แต่ตัวอาคารได้ลงเสาเข็มลึกถึงพื้นดินจึงไม่ทรุดตัวมาก

          นาย บุญไกร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางเทศบาลได้ตั้งงบประมาณยกพื้นถนนไปจำนวน 4 ซอย หมดงบประมาณไปกว่า 40 ล้านบาท ขณะนี้ได้ตั้งงบประมาณอีก 8 ล้านบาท เพื่อยกถนนด้านท้ายหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องตั้งงบประมาณอีกเกือบร้อยล้านถ้าจะยกถนนทางเข้าทั้งหมด ซึ่งเทศบาลได้ทยอยทำให้ครบทุกซอย แต่ก็บางซอยต้องช้าลงบ้าง เพราะงบประมาณมีไม่เพียงพอ และเจ้าของโครงการก็ขายไปหมดแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อต้องซ่อมกันเอง แต่เทศบาลได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และเมื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้างของหมู่บ้านพบว่า มีการลงเสาเข็มลึกถึง 20 เมตรลงสุดใต้ดิน แต่บางจุดที่ดินไม่แน่น ก็จะทรุดตัวลงจนฐานรากลอยตัวห่างจากหัวเสาเข็ม ซึ่งเมื่อพบเห็นทุกคนกลัวอันตรายจะเกิดขึ้นมา ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่างได้ร้องเรียนไปที่ สคบ. แต่ยังไม่มีการลงมาตรวจสอบภายในหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างใด




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

กิ๊บซี่ ไม่ซีเรียส ภาพหลุด







กิ๊บซี่ไม่ซีเรียส ภาพหลุด ปาร์ตี้ดื่มบ้าง ไม่ถึงเมาหัวราน้ำ

          กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์ นักร้องสาววงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีภาพหลุดกับสาวหล่อเผยแพร่ออกมาในตอนนี้ ว่า เป็นภาพที่อยู่ในบล็อกส่วนตัว ไม่ได้มีเจตนาเอาเรื่องส่วนตัวของตัวเองมาโชว์ให้คนอื่นดู อาจจะมีคนไม่หวังดี ที่พยายามทำร้ายให้ดูไม่ดีที่สุด แต่กิ๊บไม่ซีเรียสเรื่องนี้ ไม่แคร์ เพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ

          "ภาพนี้จริงๆ นานแล้วเหมือนกับที่ทุกคนมีปัญหากัน คือเป็นภาพที่อยู่ในบล็อกส่วนตัว ที่ถูกดึงออกมา จริงๆ ภาพนั้นก็ถ่ายเล่นกับเพื่อน ถ่ายในงานปาร์ตี้ ที่เห็นชุดสีเทาเป็นถ่ายในงานปาร์ตี้ที่ร้านกิ๊บซ่า อีกภาพเป็นปาร์ตี้วันเกิดของกิ๊บเองค่ะเสื้อสีขาว ก็คงมีดื่มกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เวลาถ่ายรูปกิ๊บจะทำหน้าเมาตลอดเวลา ก็มีเมาค่ะ แต่กิ๊บเป็นคนที่เมาแล้วควบคุมตัวเองได้ มีการดื่มสังสรรค์บ่อยๆ แต่ไม่มีการดื่มแบบเมาหัวราน้ำ หรือหัวทิ่ม ดูแลตัวเองได้"

          เมื่อถามถึงหนุ่มที่อยู่ในภาพ กิ๊บซี่ กล่าวว่า "เขาเป็นทอมค่ะ(หัวเราะ) เป็นเพื่อนในกลุ่ม ทุกคนสนิทกันหมด ในความคิดของกิ๊บ เขาก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งก็ไม่ได้ระวังอะไรค่ะ กอดคอเล่นหอมแก้มกัน มันเป็นวัฒนธรรมของกลุ่มเรา มันก็คือเพื่อนแล้วก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันไม่ได้คิดกันในทางชู้สาว แต่ถ้าคนมองว่าไม่ดี ก็คงไม่ทำค่ะ พยายามหลีกเหลียงหรือว่าระมัดระวังมากกว่านี้ค่ะ เพราะเราไม่สามารถควบคุมมันได้ค่ะ ก็อยากจะขอโทษสำหรับคนที่ซีเรียส มันเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อสังคม  ก็จะระวังตัวมากขึ้นค่ะ แต่โดยส่วนตัวกิ๊บไม่ใช่คนคิดมากเรื่องนี้ค่ะ"




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

เจแปน แอร์ไลน์ส เตรียมยื่นขอล้มละลาย 19 ม.ค.นี้




เจแปน แอร์ไลน์ส เตรียมยื่นขอล้มละลาย 19 ม.ค.นี้ (ไทยรัฐ)

          สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานว่า สายการบิน เจแปน แอร์ไลนส์ อาจยื่นเรื่องขอล้มละลายในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ภายใต้แผนปรับโครงสร้างที่รัฐบาลสนับสนุน เช่น การลดตำแหน่งงาน 13,000 ตำแหน่ง..

          เมื่อวันที่ 9 ม.ค. หนังสือพิมพ์นิกเคอิ รายงานโดยไม่อ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบทางเลือกให้ สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส ยื่นขอล้มละลายต่อศาล ซึ่งเป็นข้อเสนอของหน่วยงานกำกับดูแลการฟื้นฟูกิจการของเจเอแอล ที่รัฐให้การสนับสนุน ทำให้เจเอแอล สามารถยื่นขอล้มละลายต่อศาลเขตโตเกียวได้ในวันที่ 19 ม.ค. ตรงกับรายงานของหนังสือพิมพ์อาซาฮี

          หนังสือพิมพ์นิกเคอิ ระบุว่า ภายใต้แผนปรับโครงสร้าง เจเอแอล จะลดตำแหน่งงาน 13,000 ตำแหน่ง ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และจะยกเลิกเส้นทางการบินเกือบ 50 เส้นทาง ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลการฟื้นฟูกิจการของเจเอแอล จะขอให้ธนาคารยกหนี้ 3.5 แสนล้านเยน (ราว 1.26 แสนล้านบาท) เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินของเจเอแอล


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



ทั่วไทยสนุกครึกครื้นใน วันเด็กแห่งชาติ ปี 53




ทั่วไทยสนุกครึกครื้นในวันเด็กปี 53 (ไทยรัฐ)

          วันเด็กเมืองคอนไอเดียเก๋ นำเด็ก ๆ แห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุ ที่เชียงรายจัดงานให้เด็กเล็กที่นอนป่วยในโรงพยาบาล ส่วนหน่วยทหารคนแน่น...

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานวันเด็กประจำปี 2553 ที่บริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้มีกิจกรรมวันเด็กไอเดียแปลกใหม่ที่ไม่เคยจัดที่ไหนมาก่อน โดยทางจังหวัดและภาคเอกชน ทั้งนี้พระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารและเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เทศนาธรรมแก่บรรดาเด็ก ๆ จำนวนมากที่ไปร่วมงาน จากนั้นบรรดาเด็ก ๆ จำนวนกว่า 500 คนได้ร่วมกันแห่ผ้าเหลืองขึ้นไปห่มองค์พระธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เพื่อเป็น ศิริมงคลแก่บรรดาเด็ก ๆ ได้ซาบซึ้งในรสพระธรรม





          ที่ จ.เชียงราย เต็ม ไปด้วยความคึกคักบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองได้นำบุตรหลานไปเที่ยวที่บริเวณสวนตุง และโคมเฉลิมพระเกียรติ ถนนธนาลัย ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มีบรรดาเด็ก ๆ และผู้ปกครองกว่า 1,000 คนไปร่วมงาน โดยทางเทศบาลนครเชียงรายได้ตั้งเวทีการแสดง กางเต้นท์แจกอาหารเครื่องดื่มและขนมต่าง ๆ รวมทั้งนำรถกู้ชีพเทศบาลนครเชียงรายมาจอดไว้ เพื่อให้เด็กๆนั่งบนกระเช้ากู้ ภัยเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบบริเวณงาน รวมทั้งได้จัดรถรางจำนวน 2 คันให้เด็ก ๆ นั่งไปชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจำนวน 9 จุดด้วย

          ส่วนที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมืองเชียงราย คณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรในโรงพยาบาล ร่วมกันจัดงานวันเด็กให้กับเด็กเล็กที่นอนป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มีการจัดการแสดง และแจกอาหาร-ขนม-ไอศกรีม รวมทั้งมีการมอบของขวัญให้กับเด็กผู้ป่วยทุกคนด้วย ทำให้ญาติ ผู้ปกครอง และพ่อแม่ ที่มาเฝ้าไข้ลูกหลานต่างดีใจมาก โดยเฉพาะเด็กที่ป่วยเข้ารักษาตัวอยู่ ต่างปลื้มใจที่หมอและพยาบาล ได้จัดงานวันเด็กให้ ไม่ลืมเด็กเล็กที่นอนป่วยอยู่ ถึงแม้ว่าบิดามารดา จะไม่สามารถพาไปเที่ยวงานวันเด็กได้





          บรรยากาศที่บริเวณกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี ได้ จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ท่ามกลางบรรยากาศเปื้อนยิ้มของเด็ก ๆ ที่เดินทางหลั่งไหลมาร่วมงานทั้งจาก จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็น จ.อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร มุกดาหาร กว่า 10,000 คน โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล จะมีการจัดรถโดยสารพานักเรียนมาเป็นหมู่คณะคล้ายขบวนทัศนศึกษา หรือบางรายมาเป็นครอบครัว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้การจราจรช่วงถนนหน้ากองบิน 21 จะติดขัดและเคลื่อนตัวไปได้ด้วยความลำบากก็ตามเนื่องจากพื้นที่กองบิน 21 เป็นสถานที่จัดงานเป้าหมายของเด็ก ๆ หลายคนที่ต้องการมาสัมผัสกับอาวุธยุทโธปกรณ์ ทางการทหารต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบินเอฟ 5 อี/เอฟ เครื่องบินเอฟ 16 เอ/บี รถถังหุ้มเกราะ ปืนใหญ่ พร้อมกันนี้ยังมีการแสดงโชว์การบิน การกระโดดร่ม การฝึกสุนัขทหาร และการแสดงร่มบิน ให้กับเด็กได้ชมกัน





          ส่วนบรรยากาศที่ จ.หนองคาย ทาง จังหวัดได้เปิดให้เด็กได้มีโอกาสได้เข้าชมห้องทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด หนองคายอย่างใกล้ชิด โดยนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้พบปะและให้เด็กได้ซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ ด้วยและที่กองร้อย ตชด.245 หนองคาย ที่เป็นจุดหลักในการจัดงานวันเด็ก มีการนำเอารถถังหุ้มเกราะ จาก ตชด.24 จ.อุดรธานี พร้อมอาวุธปืน ยุทธโธปกรณ์ที่มีสภาพใช้งานได้จริงมาจัดแสดงให้เด็กได้ชม และเปิดโอกาสให้ทดลองนั่งรถถัง เล่นอาวุธปืนอย่างใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรมการกระโดดหอสูง 31 ฟุต ท้าความกล้า ซึ่งมีทั้งเด็กผู้ชายและผู้หญิงต่อแถวกระโดดหอสูงกันจำนวนมาก





          ที่ จ.ภูเก็ต บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเรือรบหลวงบางปะกงมาจอดเทียบท่า เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เข้าชม และสัมผัสอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการแสดงศักยภาพของชุดปฏิบัติการใต้น้ำ หน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือ หน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำรถเคลื่อนที่เร็วและรถอุปกรณ์ตัดถ่าง แสดงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางบก-ทางทะเล การเล่นเกม-แจกของเล่นให้แก่เด็ก ๆ เป็นจำนวนมากท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยทางเข้าออกมี สห.ของทัพเรือภาคที่ 3 คอยตรวจวัตถุต้องสงสัย เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย ที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น ขณะเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้นั่งเก้าอี้ ผวจ.และสัมผัสห้องทำงานอย่างใกล้ชิด





          ที่สนามโรงพิธีช้างเผือกเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา ที่ เป็นสถานที่จัดงานวันเด็กประจำปี 2553 บรรยากาศทั่วไปตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีผู้ปกครองพาลูกหลานมาเที่ยวกันอย่างคับคั่ง ซึ่งเด็ก ๆส่วนใหญ่ได้ขึ้นไปเล่นบนรถยนต์หุ้มเกราะที่ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวณชายแดนที่ 44 ยะลานำมาจอดไว้เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เล่นกัน พร้อมกันนี้ทางชมรมเครื่องบินร่อนบังคับจังหวัดยะลาได้นำเครื่องบินบังคับมา แสดงโชว์ให้กับน้อง ๆ ได้ชมกันด้วย





          ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2553 ในหลายหน่วยงานทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา กอง ทัพภาคที่ 2 แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เด็ก ๆ นิยมชมชอบชื่นชอบ อาทิเช่น รถถังหนัก แบบ เอ็ม 41 ปืนใหญ่หนักขนาด 155 มม.รัศมีระยะยิงทำลายกว่า 100 กม.ปืนกลต่อสู้อากาศยาน เครื่องยิงลูกระเบิด หรือปืน ค.และกระสุนปืน ค.ปืนกลหนัก ปืนเอ็ม 16 รถจี๊ปติดตั้งปืนกลหนักหรือรถสิงห์ทะเลทราย เป็นต้น โดยไฮไลท์ก็คือรถถังได้รับความสนใจของเด็กๆแย่งกันขึ้นไปนั่ง และเล่นกันคึกคัก รวมทั้งมีการแจกของรางวัล และของขวัญให้กับเด็ก ๆ เป็นจำนวนมากกว่า 10,000 ชิ้น

          ส่วนที่กองบิน 1 กองทัพอากาศนำเครื่องบิน ขับไล่เอฟ 16 เอ/บี แบบที่นั่งเดี่ยว และแบบ 2 ที่นั่ง เครื่องบินขับไล่แอล 39 และเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 อี มีมีอายุใช้งานประจำในประเทศไทยมาหลายสิบปี และเป็นรุ่นเดียวกันกับที่เพิ่งตกที่ จ.อุบลราชธานี มาจัดแสดง นอกจากนี้ยังมีการบินผาดโผนโดยใช้เครื่อง เอฟ 16 และกระโดดร่วมดิ่งพสุธา และการใช้เฮลิคอปเตอร์บินโฉบเฉี่ยวปล่อยควันที่ขาว และแดงเพื่อแสดงที่ตั้งฆ่าศึก โดยมีการจัดเป็นสองรอบเป็นรอบเช้าและบ่าย โดยมีผู้ปกครองจูงลูกจูงหลานมาเที่ยวชมเป็นครอบครัวมืดฟ้ามัวดินมากกว่า 50,000 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความแออัดยัดเยียดจนเต็มลานจอดเครื่องบิน





          ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการจัดกิจกรรมของกองทัพเรือ ที่กรมอู่ทหารเรือ ป้อมพระจุลจอมเกล้า จัด งานวันเด็กแห่งชาติ โดยมีทหารเรือคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ในการร่วมกิจกรรมของเด็กและผู้ปกครอง ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.ส่วนที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ได้จัดงานวันเด็ก ในเขตพื้นที่ทหารชมเรือหลวงสุรินทร์และอาวุธยุทรโทปกรณ์ของกองทัพเรือ ชมนิทรรศการภารกิจของกองทัพเรือ และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว สาธิตการปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบต่าง ๆ การเยี่ยมชมเรือรบ การแสดงการปฏิบัติงานของอาวุธบนเรือรบที่มีประสิทธิภาพในบริเวณการจัดงาน การบริการทางการแพทย์ การแข่งขันกีฬาหลายชนิด แข่งขันตอบปัญหา แจกของขวัญและมอบของที่ระลึก

          งานวันเด็กแห่งชาติ จากพื้นที่ จ.นราธิวาส นั้น ที่บริเวณลานหน้า กองบัญชาการ กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ ค่ายจุฬาภรณ์ มีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ รวมทั้งเด็กกำพร้าจากบ้านพักเด็กชายนราธิวาส ทยอยเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมผู้ปกครองนับหมื่นคน โดยมีเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมทหารตำรวจ และฝ่ายปกครองดูแลความปลอดภัยอย่าง เข้มงวด กิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การแสดงบนเวที รวมทั้งตามซุ้มนาวิกโยธินต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการแสดงออก สร้างความสุขสนุกสนาน ที่สำคัญเป็นการลดความตึงเครียดจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อ เนื่อง โดยมีการมอบของขวัญและของรางวัลให้แก่เด็กที่ร่วมกิจกรรมด้วย ส่วนการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ อาทิ ปืน รถเกราะวี 150 การแสดงสุนัขสงครามจำนวน 6 ตัว รวมไปถึงการโดดร่มดิ่งพสุธา ที่ได้รับความสนอกสนใจจากเยาวชนเป็นอย่างมาก





          ส่วนบรรยากาศในวันเด็กแห่งชาติที่ จ.เชียงใหม่ มี การจัดงานหลายสถานที่จนทำให้การจราจรหลายแห่งขัดขัด แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นที่ชื่นชอบของเด็กก็ยังคงเป็นบริเวณกองบิน 41 ที่มีการจัดงานวันเด็กอย่างยิ่งใหญ่ในทุก ๆ ปี มีการนำเครื่องบินรุ่นต่าง ๆ และอาวุธยุทโธปกรณ์มีให้เด็กได้ชมอย่างใกล้ชิด และขึ้นไปถ่ายรูปบนเครื่องบินรบชนิดต่าง ๆ ได้และยังมีการละเล่นชิงรางวัล จำนวนมากเต็มลานบินสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันจุดที่ได้รับความสนใจมากเป็นแหล่งที่ 2 ได้แก่บริเวณสวนสัตว์เชียงใหม่ที่มีเวทีการละเล่นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเวที กลางแจ้งมีการนำเอาสัตว์แสนรู้ออกมาแสดงความสามารถ





          และเวทีที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษก็คือเวทีหน้าส่วนจัดแสดงแพนด้า ที่มีการนำของขวัญของจอมซนหลินปิง ที่แฟนคลับทั่วประเทศส่งมาให้ นำมาเป็นรางวัลให้กับเด็กๆที่ออกมาแสดงความสามารถและเล่นเกม และที่เวทีหน้าเชียงใหม่ซูอควาเรียม ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม ก็มีการจัดเวทีให้กับเด็กมีการแจกรางวัลให้อย่างสนุกสนาน ทั้งนี้จัดการแสดงแพนด้าหลินปิง หลินฮุ่ย และช่วงช่วง มีเด็ก ๆ เข้าไปชมจำนวนมาก โดยทั้งสามพ่อแม่ลูกได้ออกมาโชว์ตัวถึง 3 รอบให้เด็กได้ดูความน่ารักอย่างประทับใจเป็นอย่างมาก

          บรรยากาศที่ จ.อุดรธานี ผู้ปกครองนำเด็กๆ ชมและขึ้นบอลลูน ที่สนามทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะที่งานวันเด็กที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี โดยเด็ก ๆ ต่างชมการแสดงเครื่องบินกว่า 66 ลำ มีตั้งจอดโชว์ และบินโชว์อย่างตื่นตาตื่นใจ และปีนป่ายเครื่องบินที่ลานจอดเครื่องบิน

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติ ที่จ.จันทบุรีปี 53 หลาย หน่วยงานได้ร่วมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เช่น ที่หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก และ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีจัดกิจกรรมวันเด็กที่ลานค้าชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีพร้อมหน่วยงานเอกชนร่วมจำนวนมาก และมีกลุ่มนักศึกษาพยาบาล จาก 3 จว.ชายแดนใต้ ที่ศึกษาอยู่วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้าจ.จันทบุรีมาร่วมเล่นและนำกิจกรรมต่าง ๆ มาให้เด็กร่วมสนุก โดยในงานมีของขวัญของรางวัลและอาหารเลี้ยงเด็กจำนวนมาก พร้อมทั้งมีการแสดงของศิลปินนักร้อง ฟลุค เดอะสตาร์ ที่สนามบินท่าใหม่ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดได้นำอาวุธทางทหารและเครื่องมือ ต่าง ๆ พร้อมรถ ถังหุ่มเกาะ เฮลิคอปเตอร์ มาร่วมโชว์ให้เด็ก ๆ ได้ชมจำนวนมาก


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

เฉลิม-จตุพร ซัดกันนัว กำหนดวันซักฟอกไม่ลงตัว

จตุพร พรหมพันธุ์

เฉลิม อยู่บำรุง


"เฉลิม-จตุพร" ซัดกันนัวกำหนดวันซักฟอกไม่ลงตัว เสื้อแดงขอยื่นทันทีตอนชุมนุมใหญ่"เหลิม"รอข้อมูลสมบูรณ์ (มติชนออนไลน์)

          พรรค ฝ่ายค้านกำหนดยุทธศาสตร์เปิดเวทีถล่มรัฐบาลแบบคู่ขนาน ระหว่างในสภาและนอกสภา ยังหาข้อยุติไม่ได้ "เฉลิม" ให้รอข้อมูลสมบูรณ์ก่อน "จตุพร" จะยื่นอภิปรายทันทีหลังเสื้อแดงเคลื่อนไหวใหญ่

          นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) และ กมธ.สภาผู้แทนราษฎร จำนวน 35 คณะ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รายบุคคลว่า ยังอยู่ในขั้นของการแบ่งกลุ่มและซักซ้อมประเด็น หลังจากนี้จะส่งประเด็นทั้งหมดให้กับคณะกรรมการกลั่นกรองที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. เป็นประธาน และนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เป็นรองประธาน ได้คัดเลือกประเด็นที่จะใช้อภิปราย

          รายงาน ข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ในการประชุมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และการเมือง เพื่อเตรียมพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้เกิดการโต้เถียงระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากเห็นไม่ตรงกันเรื่องวันที่จะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่ง พรรคฝ่ายค้านกำหนดยุทธศาสตร์เปิดเวทีถล่มรัฐบาลแบบคู่ขนานระหว่างในสภาและ นอกสภา ซึ่งเป็นการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่นายจตุพรเห็นว่า หลังการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 21 มกราคม กลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ทันที ดังนั้นพรรคควรยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีเช่นกัน แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ค้านว่าไม่ควรกำหนดวัน ควรจะรอให้ข้อมูลสำหรับอภิปรายสมบูรณ์ที่สุดเสียก่อน สุดท้ายไม่สามารถหาข้อยุติได้

          สำหรับประเด็นที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า จะนำมาอภิปรายเพื่อตรวจสอบการทำงานรัฐบาลและจับการทุจริตในกระทรวงสาธารณ สุข  กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย รวมถึงโครงการชุมชนพอเพียง แม้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบจะลาออกไปก็ตาม ขณะมีรัฐมนตรีที่อยู่ในข่าย 6-7 กระทรวงที่มีหลักฐานชัด รวมถึงนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ , เดลินิวส์ แฟรนไชส์ ecosway ,
สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจ ขายตรง MLM เครือข่าย หรืองานขาย ,
สร้างทีมงานได้แบบมั่นคง ,
สร้างรายได้แบบถาวร ,
แนะนำผู้ที่มีความสามารถเปิด Shop ecosway ได้ทั่วประเทศ ,
สิ่งที่แฟรนไชส์ ลงทุนให้ ,
Free ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ,
Freeเงินลงทุนครั้งแรก เช่น ชั้นวาง,เฟอร์นิเจอร์,ระบบคอมพิวเตอร์,จัดหาทำเลร้าน ,
Freeค่าเช่า,ค่าตกแต่งร้าน และอุปกรณ์ที่จำเป็นในร้านทั้งหมด ,
Freeค่าใช้จ่ายในการบริหาร เช่น ค่าเช่า,ค่าน้ำ- ไฟ,ค่าโทรศัพท์ ส่งเสริมการขาย ,
Freeค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการขาย เช่น แผ่นพับสินค้าใหม่ๆ และ โปรโมชันพิเศษ ,
Freeสต๊อกสินค้า ,
จุดเด่นธุรกิจ ,

พันธมิตร ประกาศพร้อมชุมนุมใหญ่ ค้านแก้ไข รธน.

พันธมิตร

พันธมิตร



พันธมิตร ประกาศพร้อมชุมนุมใหญ่ ค้านแก้ไข รธน. (ไทยรัฐ)

          พันธมิตร ประกาศพร้อมจัดชุมนุมใหญ่ทันที หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  ชี้ ต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่นักการเมือง จวกรัฐบาล ทำงานล้มเหลว...


          เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และนายสำราญ รอดเพชร ได้ร่วมกันแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมพร้อมรับวิกฤตของประเทศชาติ 

          โดย นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะ นี้พันธมิตรฯ ได้ให้โอกาสรัฐบาลบริหารประเทศมาเป็นเวลา 1 ปีเศษแล้ว เห็นว่ารัฐบาลชุดดังกล่าวยังไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ ได้ คือ 

          1. รัฐบาลไม่สามารถขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นให้บรรเทาเบาบางได้ ด้วยปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้น ทำให้องค์กรระหว่างได้ระบุว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในปีที่ผ่านมาแย่ลงกว่าก่อนหน้านี้ 

          2. รัฐบาลล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้ง ล้มเหลวในปัญหาด้านความมั่นคง 

          3. รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารจัดการด้านการใช้สื่อของรัฐ ไม่สามารถนำความจริงและทำความเข้าใจในการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพวก ให้ประชาชนได้รับทราบได้ 

          4. รัฐบาลล้มเหลวในด้านการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม 

          นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ เห็นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันยังอยู่ในวนเวียนของการเมืองเก่า ซึ่งมองผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ จึงขอเรียกให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ มีความกล้าหาญแก้ไขวิกฤตของบ้านเมืองทุก ๆ ด้าน เพื่อยุติวิกฤตของชาติบ้านเมืองให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมทั้ง ไม่ต้องกลัวคำข่มขู่ทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น ถ้ามีการต่อรองจากพรรคร่วมรัฐบาล ขู่ว่าจะถอนตัว ก็ควรให้ถอนไปได้เลย และพันธมิตรฯ ยังคงยืนยันที่จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 50 ใน 3 ประเด็น คือ คัดค้านไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนแปลงพระราชอำนาจและโครงสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหา กษัตริย์ คัดค้านไม่ให้ฟอกความผิดให้กับนักการเมืองและพวก และคัดค้านไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการ เมือง 

          ดังนั้น ขอยืนยันว่าความผิดที่เกิด ขึ้น เพราะการกระทำของนักการเมืองไม่ใช่เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญ รวมทั้ง กระแสข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำเพื่อผล ประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น  

          ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า หาก มีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อใด พันธมิตรฯ ทั่วประเทศจะออกมาชุมนุมใหญ่เพื่อคัดค้านทันที เพราะว่าการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำโดยพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อบ้านเมืองเลย ยิ่งจะทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายมากขึ้น ต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่นักการเมือง ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ 50 แต่อย่างใด หรือการอ้างเพื่อนำรัฐธรรมนูญ 40 กลับมาใช้ ก็ไม่ได้แก้ไขให้นักการเมืองไทยมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เพราะการแก้ไขที่เสนอออกมา เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น แต่ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนเลย ดังนั้น การที่จะออกมาชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ ก็ขึ้นอยู่สถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร แต่เราก็พร้อมที่จะออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างตลอดเวลา


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เปิดecosway ฟรี ,
ธุรกิจ ,
ธุรกิจแฟรนไชส์ ,
ธุรกิจเพื่อคนไทย ,
นักขายมืออาชีพ ,
คอสเวย์ไทย ,
ลงทุนใฟ้ฟรี ,
ธุรกิจ ecosway ,

คุณตาใจเด็ด! สับหัวจงอาง ช่วยเพื่อนบ้านถูกฉกหวิดดับ

คุณตา ต่อสู้กับงูจงอาง

คุณตา ต่อสู้กับงูจงอาง
จงอาง- นายบุญมี ชนะพันธ์ อายุ 62 ปี สวมวิญญาณพรานป่าฟันคองูจงอางยาว 4 เมตร ขาดกระเด็นเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนบ้านที่ถูกงูรัดและฉกได้รับบาดเจ็บขณะเก็บ ของป่าที่ อ.ภูพาน จ.สกลนคร

 

เฒ่าวัย 60 ใจเด็ดสวมวิญญาณพรานสับหัวจงอางขาดกระเด็นช่วยเพื่อนบ้านถูกฉกหวิดดับ (มติชนออนไลน์)

         เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่  5 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร ว่ามีชาวบ้านเข้าไปหาเก็บผักขายและถูกงูจงอางฉกได้รับบาดเจ็บ เข้ามารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นางทองนาค จันทร์หอม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 9 บ.ภูพานทอง ต.โตกภู  อ.ภูพาน จ.สกลนคร ถูกงูจงอางฉกกัดเข้าที่ต้นแขนด้านซ้าย ขณะที่นายบุญมี ชนะพันธ์ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านเข้ามาเห็นเหตุการณ์ช่วยเหลือได้ทันเวลา

         ทั้งนี้ นายบุญมี กล่าวว่า เห็นงูจงอางขนาดเท่าแขนยาว 4 เมตร กำลังรัดร่างนางทองนาคไว้แน่น โดยมือด้านขวากำคองู และพยายามผลักดันให้ห่างออกจากตัว แต่ก็ล้มกลิ้งไปและงูได้ฉกเข้าที่ต้นแขนด้านซ้ายของนางทองนาคจนเลือดไหลซึม จากนั้นตนเข้าไปดึงคองูออกมา โดยช่วยดึงส่วนหางที่พันตามร่างกายนางทองนาคด้วยความยากลำบาก จึงเรียกเพื่อนบ้านอีก 2 คน ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงมาให้การช่วยเหลือ แต่เมื่อเพื่อนบ้านมาถึง และเห็นเหตุการณ์ต่อสู้กันกับงูกลับพากันวิ่งหนี

         ตนจึงต้องดึงงูช่วยนางทองนาคเอง โดยเมื่อดึงงูออกให้ห่างจากร่างของนางทองนาค จึงหยิบมีดอีโต้ที่อยู่ในเอวออกมาฟันที่ลำคองูสุดแรง และต้องฟันถึง 3 ครั้ง หัวงูจึงได้ขาดกระเด็นออกจากลำตัวงู แต่งูก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์แม้หัวจะขาดแต่ลำตัวก็ยังรัดร่างเอาไว้แน่น ซึ่งกว่าจะแยกเอาร่างออกมาได้ก็กินเวลาไปหลายนาที จากนั้นจึงได้เอาลำตัวงู บรรจุเข้าในถุงดำ และเดินออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โดยได้โทรศัพท์แจ้งให้ลูกสาวนำรถไป รับที่ท้ายหมู่บ้านก่อนที่จะนำตัวนางทองนาคส่งโรงพยาบาลพระอาจารย์แบน ธนาก โร และถูกนำตัวส่งเข้ามารักษาต่อที่โรงพยาบาลสกลนครในเวลาต่อมา

         ทางด้าน นางทองนาค กล่าวว่า จุด ที่พบงูเป็นซอกหินและมีพุ่มไม้ขึ้นอยู่เต็ม ตนกำลังจะเดินไปเก็บยอดผักในบริเวณดังกล่าว จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนงูเลื้อยเข้ามาหาด้วยความรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวก็เห็นงูพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วมาก ในขณะที่ กำลังจะวิ่งหนีเท้าเกิดไปสะดุดท่อนไม้ ทำให้ล้มลงนอนกับพื้นก่อนที่จะถูกงูพุ่งเข้ามาเพื่อที่จะกัด แต่ตนเองคว้าคองูได้ทันและพยายามผลักดันให้ออกห่างจากร่าง แต่ก็ถูกงูรัดแน่นจนหายใจไม่ออก ตะโกนขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ พองูมันคลายตัวจึงได้มีโอกาสร้องขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งนายบุญมีได้ยินและวิ่งมาให้การช่วยเหลือได้ทัน

         อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาการของนางทองนาค จันทร์หอม ที่ถูกงูกัด แพทย์ลงความเห็นว่า งูจงอางยังไม่ได้ฝังเคี้ยวลงทั้ง 4 เคี้ยว มีเพียงรอยถากตรงแผลเท่านั้น โดยแพทย์จะทำการเฝ้าดูอาการผู้ป่วยไปก่อน  และให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสกลนคร เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายถึงชีวิต จนกว่าแพทย์จะแน่ใจว่าผู้ป่วยไม่มี อาการจากพิษงูกัดก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

คอสเวย์ ,
ขายตรง ,
แฟรนไชส์ ,
เครื่องกรองน้ำ ,
เครื่องสำอางค์ ,
น้ำหอม ,
เปิดช็อปฟรี ,
เปิด ร้านฟรี ,
ธุรกิจแนวใหม่ ,
แฟรนไชส์ ฟรี ,


วุ้นเส้น ไม่แคร์ ภาพกอดคอ เอ็ม หลุด

เอ็ม วรพล - วุ้นเส้น

ภาพกอดคอ เอ็ม หลุด สนิทแล้ว วุ้นเส้น ไม่แคร์ (สยามดารา)

          " วุ้นเส้น" เมินภาพหลุดสวีตหวานกอดคอคู่ "เอ็ม" คนมองเกินเพื่อน เผยสัมพันธ์พัฒนาขึ้น ยันไม่พร้อมเรียกเเฟน โต้แทนฝ่ายชายเกาะกระแสข่าวหวังดัง

          วี เจพิธีกรสาวหมวย "วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์" เป็นอีกหนึ่งสาวฮอตที่ถูกจับตามอง กับความสัมพันธ์ไฮโซหนุ่มล่าสุด "เอ็ม-วรพล" ที่เจ้าตัวยืนกรานยังไม่พร้อมเรียกเเฟน ล่าสุดมีภาพหลุดของวีเจสาวกับไฮโซหนุ่มสวีตหวานกอดคอกัน กับท่าทีที่ดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษเกินเพื่อน และยังมีกระแสข่าวออกมาอีกว่าไฮโซหนุ่มคนสนิทเข้ามาใกล้ชิด เพื่อหวังเกาะกระแสข่าวดัง

          เมื่อผู้สื่อข่าวสยามดารา มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวเครื่องสำอางเทรนด์เกาหลี Lioele Cosmetic ที่ห้อง Monet ชั้น 4 โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ วันที่ 8 มกราคม 2553 โดยในงานนี้วีเจสาวได้มาร่วมงานในฐานะดารารับเชิญ ผู้สื่อข่าวได้พาตัววีเจสาวมาถามถึงภาพหลุดคู่กับไฮโซหนุ่มคนสนิท ตอน นี้ทั้งคู่ใช้คำว่าเเฟนกันได้หรือยัง โดยวีเจสาวรับภาพหลุดคู่สนิทกันมากขึ้นจริง ยันไม่พร้อมใช้คำว่าเเฟน หวั่นคนมองภาพพจน์ไม่ดีอ้างพร้อมเมื่อไหร่ได้รู้เอง

          วุ้นเส้น : จริง ๆ ภาพนั้นกอดคอเพราะอยู่ในงาน วันนั้นไปกับทีมงานชาแนลวีหลายคน และก็มีพิตต้า ถ่ายรูปเล่น ๆ กันรู้จักสนิทกัน ก็คงไม่มีอะไรมาก สนิทกันมากขึ้นมากกว่าเดิม ก็สนิทค่ะ ยังไม่พร้อมเรียกเเฟน คงใช้เวลาอีกซักพักให้มันชัดเจน และก็พูดอะไรได้มากกว่านี้ เพราะว่าเดี๋ยวมันก็ดูไม่ดีอีก เหมือนทุกครั้งเราพูดเยอะไปก็มีคนวิจารณ์เยอะอีก ขอเวลาอีกดีกว่าเดี๋ยวเร็วไปจะหาว่าทำไมรีบร้อนจัง บางทีดูนานไปคนก็เดาว่าเป็นอะไร ถ้าชัดเจนแล้วจะบอกอีกทีแล้วกัน

          ผู้ สื่อข่าวถามต่อว่า มีข่าวเม้าท์ว่าตัวไฮโซหนุ่มหวงวีเจสาวมาก และส่วนตัววีเจสาวเองก็หลงฝ่ายชายไม่เเพ้กัน ต่อข้อถามว่าช่วงนี้ก็มีไปรับไปส่งกันมากขึ้นหรือเปล่า วีเจสาวเชื่อไฮโซหนุ่มไม่เคยหวงมาก ยันตนก็ไม่ได้หลงเหมือนกัน รับมีรับส่งบ้างแต่ไม่บ่อยอ้างต่างคนต่างทำงาน

          วุ้นเส้น : มัน ก็ไม่มีค่ะ ข่าวมันสามารถบอกว่าเราอะไรก็ได้ในโลกนี้ เท่าที่รู้เค้าไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น เราก็ไม่ได้อะไรมากมาย รับส่งก็มีบ้างแต่ส่วนใหญ่ต่างคนต่างทำงานกันมากกว่า เลยไม่ค่อยได้เจอกันมาก

          ผู้ สื่อข่าวถามต่ออีกด้วยว่ากับกระแสข่าวที่ออกมาว่า ไฮโซหนุ่มที่เข้ามาใกล้ชิด เพื่อหวังเกาะกระแสข่าวดัง วีเจสาวโต้แทนไฮโซหนุ่มไม่คิดเกาะดังให้โดนว่าผ่านสื่อ อ้างเค้าไม่ได้อะไรจากการเกาะดัง เผยฝ่ายชายไม่แคร์ข่าวเสียที่ออกมา

          วุ้นเส้น : ขอบอก เค้าไม่ได้อยากเป็นดาราเลย ไม่รู้ว่าเค้าดังแล้วจะได้อะไรขึ้นมา การเป็นดาราคนดังก็ไม่ได้ดีเสมอไป อาจจะมีคนหวังดี ถ้าเค้ามาตรงนี้อาจจะมีคนเข้ามาพูดถึงหรือวิจารณ์เค้ามากขึ้น คนที่เข้ามาก็ต้องเข้มเเข็งพอสมควร วุ้นว่าเค้าคงไม่เสี่ยงที่จะเข้ามาโดนว่าเหมือนดาราทั่วไป เค้าก็ไม่ได้สนใจกับข่าวมาก เราก็บอกเค้าว่าการเข้ามาคุยกันคนที่ทำงานอยู่ในวงการ มันเป็นข่าวกันได้ทุกคน เค้าก็เฉย ๆ อย่างที่บอกถ้าเค้าแคร์อะไรมากก็คงคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเป็นคนไม่ชอบคนที่ตัดสินกันจากข่าว วุ้นยังพูดเต็มปากเต็มคำไม่ได้เพราะเราเองก็ยังไม่แน่ใจค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

ไก่ ยกนิ้วให้ กาย หลังรับโทรขู่จริง


กาย นวพล - ไก่ ทรงกลด



ไก่ อภัยยกนิ้วให้ กาย เผยขู่จริง (สยามดารา)

          ไก่ ทรงกลด ลั่นให้อภัย กาย นวพล  บอกเป็นลูกผู้ชายจริง หลังออกมายอมรับเรื่องเสียงคลิป พร้อมกล่าวขอโทษที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ย้ำไม่โกรธ มาช่า-หนุ่ย ที่ออกมาป้องลูกบอกถ้าเป็นตัวเองก็ต้องทำ ย้ำหากถูกฟ้องกลับ ก็พร้อมไปศาล

          ในที่สุดเรื่องราวความบาดหมางระหว่าง กาย นวพล ลำพูน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักร้องชื่อดัง มาช่า วัฒนพานิช และหนุ่ย อำพล ลำพูน กับ คู่กรณี ไก่  ทรงกลด นักปั้นผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงและผู้จัดการดารา ก็มีทีท่าว่าจะสามารถเคลียร์กันได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่า

          เพราะหลังจากที่หนุ่ม กาย นวพล ถูกนักปั้นมือดี ไก่ ทรงกลด ออกมาเปิดคลิปเสียงแฉว่า หนุ่มกายโทรศัพท์ข่มขู่ ด้วยถ้อยคำวาจาอันหยาบคายกับนักปั้นดาราหลังจากที่ไม่พอใจ อยากให้เลิกยุ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวสาว แบ๋ม มนพัทธ์ พิศลยบุตร ที่เป็นหนึ่งสาวที่หนุ่มกายกำลังคบหาดูใจอยู่ ล่าสุดหนุ่มกายมีทีท่าอ่อนลง ออกมาสารภาพว่า คลิปเสียงที่นักปั้นเคยออกมาแฉนั้นว่าเป็นของตนจริง ทำให้ฝ่ายนักปั้น ไก่ ทรงกลด ก็มีทีท่าอ่อนลงเช่นกัน ล่าสุดไก่ ทรงกลด ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า

          "ตนได้เห็นข่าวที่น้องกาย นวพล ลำพูน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อแล้ว ตนให้อภัยและไม่คิดโกรธเพราะกายเขายังเด็ก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกมาขอโทษกับตนโดยตรง แต่การที่ออกมายอมรับกับสื่อว่าได้พูดไปอย่างนั้นจริง ก็ถือว่าคิดได้ เป็นลูกผู้ชายคนนึง แมน โอเค ช้าไปบ้างก็ไม่เสียหาย ตอนนั้นอาจจะด้วยอารมณ์ ก็ธรรมดาของวัยรุ่น และเรื่องที่เกิดก็ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมากมาย น้องกายไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงเกินกว่าที่จะให้อภัยไม่ได้"

ต่อข้อถามที่ว่าเครียดมากไหมกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้จัดการไก่กล่าวว่า

          ไก่ ทรงกลด : จริง ๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นตน ก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ที่ด่วนไปแจ้งความก่อนก็เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากให้ "วัวหายแล้วล้อมคอก" ตนก็ขอโทษด้วยเหมือนกันที่ทำให้เรื่องมันดูใหญ่โต ไม่ได้มีเจตนาเกาะดังหรอก ไม่คิดและไม่อยากดังด้วยวิธีแบบนี้ ตนขอยืนยัน

          โดยไก่ ทรงกลด ยังกล่าวต่ออีกว่า " น้องกายเองก็ต้องทำใจ การเป็นคนของประชาชน ทำอะไรไป ก็เป็นข่าว เป็นเรื่องปกติของวงการบันเทิง อยู่ที่ท่าทีต่อไปมากกว่าว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ตนเองเคยทำความดี ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติมากมาย ไม่เคยดัง พอกระแสลบดังขึ้นมาทันที ส่วนเรื่องที่คุณมาช่า และคุณอำพล อยากฟ้องกลับ ก็แล้วแต่ คนเป็นพ่อแม่ก็มีสิทธิ์ปกป้องลูก ถ้าเป็นตนก็คงทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน คนของเราจะผิดจะถูกไม่รู้ล่ะ ไว้คุยกันทีหลัง ไก่เองก็ไม่ต่างจากคุณมาช่าหรือคุณอำพลหรอก ทำได้ทุกอย่างเช่นกัน ตนไม่ได้โกรธครอบครัวของน้องกาย เพราะตนเข้าใจ ถ้ามีหมายศาลมาก็ไป ก็เท่านั้น เราไม่ได้ทำผิดอะไรเราไม่กลัว เพราะเราก็ทำดีที่สุด"

          "เราออกมาปกป้องตัวเอง ถ้าไม่นำคลิปเสียงออกมาเปิดเผย ก็อาจจะมีคนหาว่าเราสร้างกระแส สร้างเรื่อง สร้างข่าว เป็นคนโกหก เพราะน้องกายบอกไม่รู้จักเรา และยังมีข่าวออกมาจากผู้จัดการน้องกายในทำนองที่ว่า เราไปขอร้องให้น้องกายเป็นแฟนกับน้องแบ๋ม  ดูแล้วเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ เรา อยากจะให้เรื่องมันจบซะที แต่ก็ต้องคอยออกมาแก้ข่าว เรื่องมันจึงดูเหมือนไม่จบ ก็เครียดเหมือนกัน อยากทำงานมากกว่า  เด็ก ๆ ในสังกัดตนนั้นมีหลายคน บางคนยังไปไม่ถึงไหนเลย  อยากทำงานให้พวกเค้า พอมามีเรื่องนี้ ก็ต้องมาปวดหัว ตนยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มีคนรู้จักตนเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันตนก็ต้องระวังคำพูดคำจาให้มากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน อาจจะรู้สึกอึดอัดบ้าง"

          " แต่ก็ปลื้มเพราะได้กำลังใจเยอะมาก ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้กำลังใจ  ในทางกลับกัน ตนก็ไม่อยากให้เรากลายเป็นคนดี แล้วอีกฝ่ายกลายเป็นคนร้าย   ตนรู้สึกว่า ครอบครัวน้องกายเป็นครอบครัวที่อบอุ่น เพราะไม่ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรกับสถานการณ์ แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น คือความรัก ความอบอุ่น ที่พ่อและแม่ ได้หันหน้ากลับมาร่วมมือกันเพื่อความสุขของลูก ออกมาปกป้องลูก ถึงแม้ว่าท่านทั้งสองได้แยกทางกันแล้วก็ตาม ตนเชื่อว่าเค้าไม่ได้เข้าข้างลูกหรอก คงมีการตักเตือนบ้างเหมือนกัน มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ พวกเค้าทำถูกไม่ได้ซ้ำเติมแต่สอนและให้กำลังใจเพื่อให้ลูกเค้าสู้ต่อไป มากกว่า  และที่เค้าอยากฟ้องเรา ก็คงไม่รู้ว่าเราเป็นคนยังไงเหมือนกับที่ เราไปแจ้งความ ก็เพราะเราก็ไม่รู้ว่า น้องเค้าเป็นคนยังไงเช่นกัน ขณะนี้ตนสบายใจขึ้นแล้ว  คิดว่าไม่น่ามีอะไร  แต่ถ้ามีหมายศาลมาจริง เราก็พร้อมจะไป'' ไก่ ทรงกลด กล่าวในตอนท้าย


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก